1.    นโยบายการพัฒนาและส่งเสริมนวัตกรรม
บริษัทให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและส่งเสริมนวัตกรรมขององค์กร เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันและการพัฒนาธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน จึงกำหนด “นโยบายการพัฒนาและส่งเสริมนวัตกรรม” เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

นโยบายการพัฒนาและส่งเสริมนวัตกรรม

การพัฒนานวัตกรรม
บริษัทส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจในทุกๆด้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการทำงาน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า  เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน  พัฒนามาตรฐานการทำงานและผลงานให้อยู่ในระดับสากล และคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมที่บริษัทได้พัฒนาและนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย

(1)    โครงสร้างโมโนเรลแบบคานต่อเนื่อง (เลขที่อนุสิทธิบัตร 19072) 
 การพัฒนานวัตกรรมโครงสร้างโมโนเรล แบบคานต่อเนื่องสำหรับใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งเป็นการลดต้นทุนการผลิตคานทางวิ่ง (Guideway Beam) โดยมีการปรับจากระบบเดิมที่ออกแบบเป็น “คานช่วงเดียว” (ซึ่งจะทำให้คานทางวิ่งมีขนาดใหญ่) ปรับเป็นแบบ “คานต่อเนื่อง” (ซึ่งจะทำให้คานทางวิ่งมีขนาดเล็กลง) ทำให้เสาที่รองรับมีขนาดเล็กลง ส่งผลทำให้เกิดการประหยัดต้นทุนในการก่อสร้าง ทั้งนี้บริษัทได้มีการยื่นขอจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรนวัตกรรมดังกล่าวซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาความรู้และเทคโนโลยีในวงการก่อสร้างของประเทศไทย

(2)    กระบวนการทำงานด้วยแบบจำลองสารสนเทศอาคาร (BIM Process) 
การพัฒนากระบวนการทำงานด้วยแบบจำลองสารสนเทศอาคาร (BIM Process) ทำให้มีมาตรฐานหรือแนวทางการทำงานด้วยการใช้งานระบบ BIM ในโครงการต่างๆ ทั้งลักษณะโครงการสัญญาจ้างก่อสร้าง (Build Only) และ โครงการสัญญาจ้างออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง (Engineering, Procurement, and Construction :EPC) การทำงานด้วยระบบ BIM จะเป็นการจำลองการก่อสร้างให้เสมือนกับได้มีการก่อสร้างจริงในรูปแบบ 3 มิติ ก่อนที่จะดำเนินการก่อสร้าง ทั้งนี้การนำระบบ BIM มาพัฒนาและปรับใช้อย่างเหมาะสมสามารถช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนการก่อสร้างและยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยแก้ไขข้อขัดแย้งในเชิง 3 มิติ สามารถติดตามสถานะและการทำงานได้อย่างครบถ้วน 

(3)    เครื่องเจียร์รอยต่อคานคอนกรีตอัตโนมัติ 
การพัฒนาเครื่องเจียร์รอยต่อคานคอนกรีตอัตโนมัติ เพื่อทำให้ได้งานที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน สามารถทดแทนเครื่องจักรที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ สะดวกต่อการใช้งาน ลดจำนวนคนงานในกิจกรรม เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงาน

ประโยชน์ที่ได้รับจากการพัฒนานวัตกรรมเครื่องเจียร์รอยต่อคานคอนกรีตอัตโนมัติ
1.    งานมีคุณภาพได้มาตรฐาน เนื่องจากเป็นการทำงานด้วยระบบ PLC และ Sensor ที่มีความเที่ยงตรงสูง
2.    ทดแทนเครื่องจักรที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ด้วยต้นทุนการสร้างที่ต่ำกว่ามาก นอกจากนี้เครื่องนำเข้ายังมีขนาดใหญ่จำต้องปิดถนนเพื่อตั้งเครนยกขึ้นวางด้านบน
3.    ไม่ต้องใช้ผู้ปฏิบัติงานที่มีทักษะสูง ใช้การกดปุ่มเพื่อเริ่มทำงานแล้วคอยเฝ้าระวังเท่านั้น
4.    ลดจำนวนผู้ปฏิบัติงานและลดผลกระทบสืบเนื่องต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจากการใช้คน
5.    เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงาน โดยไม่ต้องปีนขึ้นไปเจียรบนหลังคานซึ่งมีความเสี่ยงต่อชีวิตตนจากการพลัดตกหรือเผลอทำอุปกรณ์ตกลงสู่ถนนข้างล่างอันส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้ใช้ทางอีกด้วย
6.    ลดฝุ่นละอองซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงานและคนในชุมชุนรอบข้าง เนื่องจากเครื่องมีระบบการดูดเก็บกักฝุ่น

(4)    เครื่องเซาะร่องลดความสูงผิวคอนกรีต 
การพัฒนาเครื่องเซาะร่องลดความสูงของผิวคอนกรีต เพื่อลดเวลาการทำงาน ลดโอกาสที่จะทำให้ผิวคอนกรีตเกิดความเสียหาย ลดฝุ่น สะดวกต่อการใช้งาน เพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงาน  

ประโยชน์ที่ได้รับจากการพัฒนานวัตกรรมเครื่องเซาะร่องลดความสูงผิวคอนกรีต
1.    ลดเวลาในการเจียรลดความสูงลงได้ 88% จากเดิม 180 นาที เหลือ 20 นาที ส่งผลให้ลดแรงงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้แรงงานลง
2.    ลดโอกาสที่จะทำให้ผิวเกิดความเสียหายจากการเจียรลึกเกินไป
3.    ไม่ต้องใช้ผู้ปฏิบัติงานที่มีทักษะสูง เนื่องจากตัวเครื่องมีกลไกช่วยควบคุมการเคลื่อนที่
4.    ลดความเหนื่อยล้าผู้ปฏิบัติงานลง เนื่องจากเป็นพื้นที่กลางแจ้ง ที่สูง และต้องทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน
5.    เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงานและผู้ใช้ทางข้างล่างจากการพลัดตกหล่นใดๆ เนื่องจากเป็นการทำงานบนที่สูง

(5)    Concrete Bucket with Remote Control
การพัฒนากระบะเทปูนควบคุมด้วยไฟฟ้าแบบไร้สาย ใช้สำหรับงานเทเสาคอนกรีต ที่ระยะ Placing Boom ไม่สามารถเข้าถึงได้ หรืองานเทคอนกรีตจุดต่าง ๆ ที่ช่วยทุ่นแรงงานคนในการควบคุมการเปิดปิดกระบะเทปูน ทำให้กระบวนการทำงานมีความสะดวกในการทำงานมากขึ้น เพิ่มความปลอดภัยและลดความเหนื่อยล้าให้กับผู้ปฏิบัติงาน โดยใช้กระบะเทปูนตรงขนาด 1 คิว เพิ่มชุดส่งกำลังแบบไฮดรอลิค ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้ากระแสตรง รับพลังงานจากแบตเตอรี่ สั่งการทำงานด้วยรีโมททั้งแบบมีสาย และไร้สาย 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการพัฒนานวัตกรรม Concrete Bucket with Remote Control

1.    ทดแทนเครื่องจักรที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ด้วยต้นทุนการสร้างที่ต่ำกว่ามาก 
2.    ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ผู้ปฏิบัติงานที่มีทักษะสูง ใช้การกดปุ่มเปิด/ปิด เท่านั้น โดยมี Limit Switch และ Fuse ช่วยป้องกันระบบการทำงานของเครื่อง
3.    เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงาน โดยไม่ต้องให้คนปีนป่ายขึ้นไปอยู่บน Bucket เพื่อไปเปิด/ปิดกระบะในการเทคอนกรีตซึ่งมีความเสี่ยงต่อชีวิตตนจากการพลัดตกหรือเผลอทำอุปกรณ์ตกลงสู่ข้างล่างอันส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้ร่วมปฎิบัติงานหรือมวลชนด้านล่าง นอกจากนี้หากเกิดผลพิการ ทุพพลภาพก็จะเป็นปัญหาภาระต่อสังคม
4.    ลดความเหนื่อยล้าของผู้ปฏิบัติงาน จากการออกแรงโยกเปิดปิด เปลี่ยนมาเป็นการกดปุ่มควบคุมแทน
5.    สามารถขยายผลไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ที่ต้องการใช้งานได้ เนื่องจากมีอุปกรณ์ที่ไม่ซับซ้อน หาได้ในตลาดทั่วไป และมีเครื่องต้นแบบให้ศึกษาเรียนรู้ในอาคาร Sino-Thai Learning Center

รายละเอียดนวัตกรรม : Concrete Bucket with Remote Control

(6)    Application Smart Data Traveling
Application Smart Data Traveling ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการตรวจสอบสถานะของชิ้นงาน ที่เข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ ในกระบวนการผลิตของ ศูนย์บริหารโครงสร้างเหล็กระยอง โดยใช้โทรศัพท์สแกน QR Code ที่ตัวชิ้นงานเพื่อระบุสถานะ หรือทวนสอบประวัติต่าง ๆ ที่ผ่านมาของตัวชิ้นงาน มีระบบแจ้งเตือนงานคงค้างต่าง ๆ ของแต่ละสถานี สามารถตรวจสอบพิกัดตำแหน่งของชิ้นงานได้ โดยระบบ Application Smart Data Traveling นี้เป็นระบบ Online ที่ได้ถูกนำมาใช้แทนระบบเดิมที่เป็นกระดาษระบุสถานะของชิ้นงาน ที่ต้องใช้แรงงานคนในการบันทึกและส่งเอกสารจากพื้นที่ทำงานมายัง office ซึ่งจะเสียเวลาในการเดินทางของข้อมูล และมีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะผิดพลาด หรือสูญหาย
ได้มีการพัฒนาต่อเนื่องนำ Data ที่ได้มาวิเคราะห์ในการควบคุมการบริหารจัดการ Line ผลิตของแต่ละสถานี ด้วยระบบ Dashboard อีกทั้งขยายผลไปยังผู้รับชิ้นงานปลายทางในการสแกนรับชิ้นงาน หรือ comment ความพึงพอใจของชิ้นงานนั้น ๆ

ประโยชน์ที่ได้รับจากการพัฒนานวัตกรรม Application Smart Data Traveling
1.    ลดจำนวนผู้ปฏิบัติงานและลดผลกระทบสืบเนื่องต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจากการใช้คน โดยลดจำนวนคนส่งเอกสารได้ 9 คน (9 Shop) 
2.    ลดขั้นตอนในกระบวนการ ไม่ต้องมีขั้นตอนในการส่งเอกสาร เนื่องจากเปลี่ยนมาเป็นระบบ Online
3.    ลดขั้นตอนในกระบวนการ ไม่ต้องใช้คนในการคีย์ข้อมูลจากกระดาษเป็นไฟล์ Excel เปลี่ยนจากการคีย์เป็นการ download ไฟล์แทน
4.    ลดการรอคอยข้อมูล Update สถานะชิ้นงาน ปกติ Update เวลา 15.00 เปลี่ยนเป็น Update Realtime
5.    ลดความเสี่ยงของข้อมูลที่ผิดพลาดหรือสูญหาย ด้วยการสแกน QR code และ กด Update Status ตามแต่ละหน้าที่รับผิดชอบเท่านั้น
6.    สามารถสอบกลับข้อมูลของชิ้นงานได้ทุกขั้นตอน วันที่ เวลา พิกัด ผู้รับผิดชอบ สถานะการตรวจสอบต่าง ๆ
7.    ประหยัดพื้นที่จัดเก็บเอกสารมากขึ้น
8.    สามารถใช้ข้อมูลช่วยในการตัดสินใจบริหารจัดการ Line ผลิตได้ แบบ Realtime ในรูปแบบ Dashboard
9.    ลดกระดาษในกระบวนการได้ 7 แผ่น ต่อ 1 ชิ้นงานโดยตั้งแต่เริ่มใช้งาน (มีนาคม - ธันวาคม 2566) มีชิ้นงานจาก 5 โครงการ รวม 57,621 ชิ้นงาน รวมลดกระดาษได้ประมาณ 403,347 แผ่น

2.    การส่งสริมวัฒนธรรมด้านนวัตกรรมในองค์กร
บริษัทยังมีนโยบายและแผนงานส่งเสริมให้พนักงานและหน่วยงานต่างๆ มีการพัฒนานวัตกรรมและกระบวนการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม เปิดกว้างทางโอกาสและความคิดในการนำเสนอแนวคิดและโครงการต่างๆจากผู้ปฏิบัติงานจริง เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดจนเกิดเป็นนวัตกรรมขึ้นในบริษัท ส่งเสริมวัฒนธรรมด้านนวัตกรรม (INNOVATIVE CULTURE) ให้เกิดขึ้นภายในองค์กร มีการดำเนินโครงการ Kaizen Succession Note ที่เปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงานได้นำเสนอสิ่งประดิษฐ์ เทคโนโลยี โปรแกรมซอฟต์แวร์ หรือวิธีการทำงาน ที่คิดค้นขึ้นใหม่หรือพัฒนาปรับปรุงจากเดิมมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และก่อให้เกิดคุณค่าครอบคลุมทั้งทางธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จากผู้ปฏิบัติงานทุกระดับ ซึ่งหน่วยงานที่จัดกิจกรรมมี 7 หน่วยงานดังนี้
1.    Gulf Pluakdaeng Power Plant Project
2.    Hin Kong Power Plant Project
3.    Mochit Complex Building
4.    RID Diversion Canal, Bang Bal - Bang Sai Ayutthaya
5.    Rayong Fabrication Center
6.    Thai Oil Clean Fuel Project
7.    Sewerage Tunnel, Bung Nong Bon to Chaophraya River
โดยมีหัวข้อจากการนำเสนอสิ่งประดิษฐ์ เทคโนโลยี โปรแกรมซอฟต์แวร์ หรือวิธีการทำงานในโครงการ Suggestion Note & Kaizen Award รวมทั้งสิ้น 241 หัวข้อ